กีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งในประเทศไทย เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2518 ได้มีชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งเข้ามาลงทุนสร้างลานสเก็ตน้ำแข็งในร่มขึ้นบริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพมหานคร เป็นลานน้ำแข็งขนาดใหญ่ใกล้เคียงมาตรฐานและจากที่นั่นกีฬาหลายประเภทที่เล่นบนลานน้ำแข็งโดยเฉพาะฟิกเกอร์และสปีด สเก็ตติ้ง ได้ถูกเผยแพร่สู่สายตาบรรดาเยาวชนไทย ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป ชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยขณะนั้นและเคยเล่นกีฬานี้ เช่น ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน อเมริกา แคนาดา ฯลฯ นอกจากพวกเขาจะเล่นกันเองแล้ว ยังได้ช่วยสอนให้คนไทยได้เริ่มเล่นบนลานน้ำแข็ง เมื่อกีฬาฟิกเกอร์และ สปีดสเก็ตติ้งเริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น
พลโท หม่อมราชวงค์ สมชนก กฤดากร และคณะได้มีการร่วมกันก่อตั้งสมาคมกีฬาสเก็ตน้ำแข็งแห่งประเทศไทย ขึ้นในปี พ.ศ.2519 ภายใต้การดูแลขององค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2521 ลานสเก็ตน้ำแข็งแห่งเดียวในประเทศในขณะนั้นได้ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้และไม่มีการบูรณะซ่อมแซมแต่อย่างใด เป็นผลให้ความก้าวหน้าของกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งและการดำเนินการต่างๆ ของสมาคมกีฬาสเก็ตน้ำแข็งแห่งประเทศไทยต้องหยุดชะงักลง
ต่อมาได้มีได้มีการเปิดลานสเก็ตน้ำแข็งแห่งใหม่ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ราชประสงค์ โดยดัดแปลงลานจอดรถบนห้างเป็นลานสเก็ตน้ำแข็ง ไม่นานนักก็มีอุปสรรค สภาพอากาศที่ร้อนชื้นทำให้น้ำแข็งเกิดการละลายตัวเป็นน้ำหยดมาใส่ร้านค้าข้างล่างเสียหาย ถึงขั้นต้องปิดลานสเก็ตน้ำแข็งอย่างถาวร
พลโท หม่อมราชวงศ์ สมชนก กฤดากร ได้เข้าเป็นสมาชิกสหพันธ์กีฬาสเก็ตน้ำแข็งแห่งเอเชีย (Asian Skating Union : ASU) โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ.2531 ทำให้ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกสพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ISU ต่อมาเมื่อนานาชาติเห็นพ้องให้มีการแยกเป็นกีฬาชนิดต่างๆ ออกแล้วตั้งองค์กรดูแลเฉพาะ ส่งผลให้มีการแยกตามไปด้วย พลโท หม่อมราชวงค์ สมชนก กฤดากร จึงตัดสินใจขอแยกกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้ง จากสมาคมสเก็ตน้ำแข็งแห่งประเทศไทย ได้ขออนุญาตจัดตั้ง สมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย เมื่อ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2538
ด้วยสภาพอากาศของเมืองไทย ที่หลายคนแอบประชดว่ามีแต่ร้อน ร้อนมาก และร้อนมากที่สุด เป็นจุดเปลี่ยนทำให้กีฬาฟิกเกอร์สเก็ต หรือสเก็ตลีลากำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย
ด้วยสนามแข่งขันที่ใช้ลานน้ำแข็งที่มีอากาศเย็น ผสมผสานกับการแสดง ทั้งหมุน กระโดด สเต็ปเท้า และท่าทางอันอ่อนช้อยแข็งแรงประกอบเพลง และต้นแบบที่นำเทรนการออกลีลาสเก็ตน้ำแข็ง หรือฟิกเกอร์สเก็ตให้เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจในกีฬาชนิดนี้ คงหนีไม่พ้น นางเอกตลอดกาล "กบ" สุวนันท์ คงยิ่ง นักแสดงที่มีประสบการณ์เป็นนักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตน้ำแข็งที่เป็นต้นแบบให้เด็กๆ เยาวชนฝึกฝนเพื่อเป็นนักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตตามแบบรุ่นพี่
"ปาล์มมี่" ฐิตา ล่ำซำ นักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2019 วัย 20 ปี ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ยอมรับว่าการได้ยินเรื่องของนางเอกอย่างพี่กบ สุวนันท์ มุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนัก หกล้มไม่รู้กี่เที่ยว แต่ก็ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ ทำให้รู้สึกท้าทาย และเป็นแรงบันดาลใจที่อยากเล่นกีฬาชนิดนี้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ซึ่งทำให้ติดทีมชาติ มาเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว
ฟิกเกอร์สเก็ต เป็นกีฬาที่นิยมเล่นกันทั่วโลก ทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับและเป็นอีกหนึ่งกีฬาสำคัญในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กำกับดูแลโดย สหพันธ์สเกตน้ำแข็งนานาชาติ ISU (INTERNATIONAL SKATING UNION) ที่มีคนไทยอย่าง "มาดามเก๋" คุณสุวรรณา ศิลปอาชา อดีตนายกสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเกตติ้งแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการสหพันธ์สเกตน้ำแข็งนานาชาติ ถือเป็นความภูมิใจของประเทศในเขตร้อน ที่แทบจะไม่มีอากาศหนาวเลยด้วยซ้ำ แต่ได้รับการยอมรับจากสหพันธ์ มีสิทธิ์มีเสียงในการร่วมพัฒนาฟิกเกอร์สเก็ตทั้งระดับนานาชาติ และในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับสนามแข่งขันที่อิมพีเรียล เวิล์ด สำโรง ให้กลายเป็นสนามแข่งขันระดับมาตรฐานในระดับโลก (ISU Center of Excellence) ไปเรียบร้อยแล้ว
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการพัฒนากีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งในประเทศไทย หลายชนิดกีฬาพยายามเฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งมาประดับวงการเพื่อทดแทนรุ่นพี่ แต่สำหรับสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเกตติ้งแห่งประเทศไทย ล้วนแต่มีดาวรุ่งดวงใหม่มาประดับวงการเสมอ ยกตัวอย่างผลงานที่เห็นเด่นชัด คือประเภทสปีดสเก็ตระยะสั้น ที่มี "จิมมี่" ไตรภพ ทองงาม เจ้าของ 2 เหรียญทองซีเกมส์เมื่อปี 2560 ที่ประเทศมาเลเซีย และล่าสุดยังมี "มอส" ณัฏฐพัฒน์ กาญจญ์ชริน หนุ่มวัยเพียง 16 ปี ที่เพิ่งคว้า 2 เหรียญทองซีเกมส์ล่าสุดปี 2562ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และยังคว้าโควต้าการแข่งขันโอลิมปิก เยาวชนฤดูหนาวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นคนแรกของสมาคมในต้นปี 2563ที่ผ่านมาอีกด้วย
